ต้อนรับการ Comeback ของ Winner ครั้งนี้ที่มากัน 4 คนครับ
ปกติผมจะไม่ค่อยตั้งกระทู้หรืออะไรแบบนี้บ่อยนักครับ ส่วนมากจะเป็นผู้ชมซะมากกว่า แต่ MV และ ตัวเพลงสองเพลงนี้ของ Winner ดีมากจริงๆ
มีเรื่องให้พูดถึงเยอะมากเลยครับ จนผมที่ตามเชียร์มาตั้งแต่ Team A ตัดสินใจมาขอตีความและรีวิวบ้าง
มากันที่เพลงแรก
Really Really เป็นเพลงที่มีจังหวะค่อนข้างเร็วและสนุกสนาน เพลงนี้ได้ซึงยุนลีดเดอร์ของเราแต่งทั้งเนื้อและทำนอง โดยมีมิโนและซึงฮุนแต่งท่อนแร๊พซาวด์ดนตรีจะมีความเป็นเพลงสากลสูงมากสำหรับผมนะเหมือนฟังเพลง bilboard อยู่ ประมานนั้นเลยครับ ซึ่งจะสังเกตได้ว่า ก่อนหน้านี้ เพลงหลักๆของ Winner ก็จะเป็นแทฮยอน ซึงยุน มิโนแต่ง ซึ่งแต่ล่ะคนก็จะมีกลิ่นเพลงต่างกันออกไป เพลงนี้ก็มีกลิ่นเพลงที่ค่อนข้างต่างจาก exit:e ที่ค่อนข้างมีความ jazz และเป็น band มากกว่า ตามสไตล์แทฮยอนเขาแหละครับ ทั้งเมโลดี้และท่อนแร๊พดีมากจริงๆ แตกต่างจากวงอื่นๆ ผมอาจจะอวยไปเอง แต่สำหรับผม Winner ไม่เคยทำเพลงออกมาแล้วมีความเหมือนเพลงบอยแบนด์เกาหลีทั่วไปเลยสักครั้ง และไม่เหมือน YG เสียทั้งหมดด้วยอย่าง ikon หรือ blackpink ยังมีกลิ่นความ YG อยู่ แต่ Winner จะค่อนข้างแตกต่างครับแต่แน่นอนมันมีกลิ่น YG ทำให้ผมชอบมากๆ
แน่นอนข้อดีมี ข้อเสียก็มี เดี๋ยวจะหาว่าเอาแต่อวย ในพาร์ทแร๊พของซึงฮุน ค่อนข้างจะดู"ทั่วไป" คือไม่ใช่ไม่ดี แต่มันไม่โดดเด่นขนาดนั้น
ซึ่งพอมองกลับมาที่มิโน พาร์ทของเขาแตกต่างและลงตัวดีมากๆ เพราะต้องเข้าใจก่อนซึงฮุนตำแหน่งในวงคือ เมนเต้น
และเขาไม่ใช่ hiphop rapper ขนาดมิโน หรือ B.I กับ Bobby จาก Ikon และข้อเสียอีกอย่างคือ พลังเสียง ที่หายไป แน่นอนจินอูร้องได้ดี แต่ไม่เท่าแทฮยอน และจะไม่พูดเลยคงไม่ถูก กลายเป็นซึงยุนต้องเป็นเมนร้องที่แบกท่อนร้องไว้เองเยอะมากขึ้น ซึ่ง ก็ดีนะผมว่า ให้อาคังปล่อยของ 555
แต่นั่นแหละครับ คงเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่จะเปรียบเทียบว่าการมีและไม่มีแทฮยอนต่างกันยังไง เพราะจากนี้ไป พวกเขามีกันสี่คน และจะเดินหน้าต่อ
ส่วนที่ผมชอบมากๆคือ MV ครับ!! โห... Part แรกคือ องค์ประกอบศิลป์ งดงามมาก นี่มันงาน Graphic Design ชัดๆ ทั้งเทคนิคการถ่ายตรงบันได เลือกใช้สีขาวดำ ตึกด้านหลัง การยืนกลางแจ้งแล้วมีเงาทอดผ่าน คนเยอะๆ ทั้งหมดนี่ถ้าคนที่ชอบศิลปะ หรือศึกษามาบ้าง จะรู้เลยว่ามันคือการทำงาน
Composition แบบซ้ำ ไล่น้ำหนัก ความสมมาตร ผมก็เรียนนานแล้ว เริ่มเรียกไม่ถูก 5555 แต่คือสวยมากๆครับ ดูแล้วรู้สึก Classy มากๆ
มากันที่เพลงที่สอง
Fool เพลงนี้เป็นเพลงช้าที่มีกลิ่นอายแบบ YG สุดๆ ไม่รู้จะพูดยังไง 5555 และเป็นเพลง ballad ที่เหมาะกับแทฮยอนมากๆ เอาอีกแล้ว พาดพิงอีกแล้ว 555
ก็มันคือความจริงน่ะครับ 55555 แต่อย่างที่บอกเราจะเปรียบเทียบเมื่อมีและไม่มีเขาเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย
แต่สิ่งที่เพลงนี้ค่อนข้างแตกต่างคือ นี่คือสไตล์ของ ซึงยุน ทำให้นึกถึง เพลง Different นิดๆ เมโลดี้ขึ้นลงอย่างสวยงาม และเป็นอีกครั้งที่ Winner พยายามจะบอกเราว่า มิโน "ร้องเพลง"ได้ดี ครบเครื่องจริงๆ มิโน ทำให้นึกถึง GD มากๆครับ ความสามารถรอบด้านขนาดนี้ แฟชั่นก็เช่นกัน
สรุป เพราะมากๆครับเพลงนี้ ซึงยุนทดแทนและเติมเต็มในส่วนของแทฮยอนได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งการแต่งเพลงและการร้อง
มาที่ MV ซึ่ง ผมชอบมากๆอีกแล้ว!! ทำไมมันลึกซึ้งแบบนี้ จนกระทั่งตอนนี้ที่เขียนอยู่ก็มีส่วนที่ผมยังตีไม่แตก
MV นี้ค่อนข้างจะ Symbolic คือมีการสื่อผ่านทางสัญลักษณ์สูงมากๆ ถ้าดูผ่านๆ ก็จะพบแต่ความสวยงามแต่ถ้าค้นหา คุณก็จะเข้าถึงมากขึ้น เหมือนกับ Winner ที่ถ้าแค่ฟังผ่านๆ ก็คงเพลงเพราะดี แต่ตัวตนและความสามารถพวกเขามีมากกว่านั้นจริงๆ รวมทั้งความเจ็บปวดและปัญหาที่พวกเขาฝ่าฟันมา
เริ่มแรกเลยเราจะเห็นได้ว่า เมมเบอร์ทั้งหมดจะมีสองชุดคือชุดทั่วไปกับสีขาว ซึ่ง สีขาวนั้นหมายถึง ผู้บริสุทธิ์ หรือ ผู้ที่ผ่านการล้างบาปมาแล้ว
เราจะสังเกตได้ว่า ชุดสีขาวนั้นพวกเขาใส่ตอนอยู่ในโบสท์หรือหน้าโบสท์เท่านั้น ทำไมล่ะ? คำตอบอยู่ที่เนื้อเรื่องครับ
ซึงยุน - ใน MV เขากำลังถ่ายรูปและหยอกล้อเล่นกับผู้หญิงที่คงเป็นคนรักเขาแหละ ไม่ต้องเดามาก 5555 ดูตอนแรกเหมือนไม่มีอะไร แต่พอตอนท้าย กลับมีรอยบีบคอสีดำ ที่คอของหญิงสาวเมื่อมองผ่านเลนส์กล้อง ทำไมล่ะ คืออะไร? ภาพเหล่านั้น เป็นเหมือนอดีตหรือความฝันของซึงยุนครับ รอยที่คอ และภาพสีแดงสื่อถึงความตายของคนรักที่จากไปแล้ว จากไปยังไง ก็รอยที่คอไง จะเห็นว่ารอยนั้น มาจากมือของซึงยุนที่มีหมึกสีดำอยุ่ในตอนจบ เป็นการสื่อว่า คนที่ทำให้คนรักจากไปนั้นก็คือเขาเอง ซึงยูนติดอยู่กับอดีต สัญลักษณ์ที่บอกก็คือ กล้อง การถ่ายรูป ทั้งหมดนี้ล้วนบ่งบอกถึง ความทรงจำ ในอดีตครับ ง่ายๆคือซึงยูนทำใฟ้คนรักจากไปและตัวเขาเองแหละที่ต้องมาติดอยู่กับมันเอง เป็น Fool ของเขา โง่เองที่ทำให้เธอจากไป
มิโน - ใน MV. เขาน่าจะเป็น Artist ที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะครับ จะเห็นได้ว่าฉากของมิโนจะมีแต่งานศิลปะ ในมุมนี้มองได้สองแง่คือ เขาเป็น Artist จริงๆ หรือเขาแค่เป็นคนติส แล้วแต่จะมองครับ จะมีฉากที่มิโนทะเลาะกับ ผญ ที่ไม่เห็นหน้า ซึ่งในจุดนี้สามารถมองได้สองอย่างคือแตกต่างจากซึงยุนที่ติดกับคนรักคนนึง แต่มิโนติดอยู่กับคนรักทุกคนที่ผ่านมาทำไมถึงเป็นทุกคน เดี๋ยวจะมาบอกครับ มองในอีกมุมนึงคือในแง่ของคนสร้างงานศิลปะ การสร้างงานศิลปะออกมาย่อมมีคู่แข่ง หรือปัญหาให้เผชิญ นั่นคือเขากำลังทะเลาะกับคู่แข่งหรือปัญหาเหล่านั้น
ซึ่งราจะเห็นว่า ผู้หญิงไม่เห็นหน้า ที่ใส่หน้ากากนี้ จะถืองานชิ้นนึงบ่อยมาก เป็นงานที่มีรอยเปื้อน นั่นคืองานของมิโน และผู้หญิงคนนี้คอยย้ำเตือนมิโนในรอยด่างในงานของเขาชิ้นนี้ตลอด แถมยังมีฉากที่ผู้หญิงใส่หน้ากาก คอยทำลายงานศิลปะของเขา พ่นสเปรย์ใส่ จนมิโนโมโห และเข้าไปจะทำลายงานชิ้นนั้น จะทำร้ายผู้หญิงหน้ากาก แต่ปรากฎว่า พอฉีกออกมากลับเป็นกระจกสะท้อนตัวเขาเองครับ หมายถึง ตัวเขาเองนั่นแหละที่ทำให้งานชิ้นนี้มันมีรอยด่าง หรือ ตัวเขาเองนั่นแหละที่ทำให้คนรักที่ผ่านมาทิ้งเขาไป และเขาเองก็ต้องมาเจ็บปวดกับมัน เป็น Fool ของมิโนครับ ซึ่งอย่างที่บอกตอนแรกทำไมถึงบอกว่าเป็นคนรักทุกคน เพราะว่าเราไม่เห็นหน้าครับ มิโนล้มเหลวในความรักทั้งหมดเพราะตัวเอง และมันก็เป็นกระจกสะท้อนมาให้เขารับรู้และติดอยู่กับมัน ถ้ามองในมุมคนทำงานศิลปะ ก็นั่นหละครับ ศิลปินมักโทษคู่แข่ง โทษตลาด โทษสังคม โทษคนดู แต่จริงๆแล้วอ่ะ ปัญหามันสะท้อนกลับมาจากคนทีทำมันออกมานั่นแหละ
ผมชอบในมุมของมิโนมาก รอยด่าง นี่พาให้นึกถึงเรื่องรอยด่างของมิโนในอดีต ทั้งการเกือบเป็น bจอ blacknut เอามาเล่นเป็นกระแส แถมยังมีปัญหาท่อนแร๊พในรายการอีก มันสะท้อนตัวมิโนได้ดีครับพาท
ซึงฮุน - ของฮุนนี่นี่ผมไม่แน่ใจ เท่าที่ดูออกคือ เขาขับรถใช่มั้ยครับ มันเหมือนคนที่ใช้ชีวิตที่โฉบเฉี่ยว อันตราย ฮุนเจ็บปวด รถล้ม มาพักที่ปั๊มน้ำมัน ก็เหมือนชีวิตที่ผิดพลาดล้มลง ต้องมาพักที่พักเติมน้ำมัน เพื่อไปต่อ แต่ระหว่างพักนั้น ความเจ็บปวดก็กัดกินเขา และพอมองออกมาก็เจอคนรถล้มนอนอยู่ เขาก็รีบมาดูแล้วพบว่าเป็นตัวเอง หมายถึง มันเป็นเพราะเขานั่นแหละที่เลือกใช้ชีวิตแบบนี้ เขาถึงต้องมาจบแบบนี้ เป็น Fool ของฮุนนี่ครับ ผมไม่แน่ใจว่า เขาอาจะสื่อถึงขั้นตายไปแล้ว หรือก็คือชีวิตล้มเหลวไปแล้วแต่ไม่รู้ตัวรึเปล่า จนกระทั่งมาเจอตนเองนอนอยู่ถึงรับรู้ว่ามันสายไปสำหรับการพักแล้ว อันนี้ยังตีไม่แตกครับ
จินอู - ของจินอูนี่ก็ยังตีไม่แตกเหมือนกันครับ คือจินอูมาดูบันทึกกล้องวงจรปิดว่าใครคือคนร้ายที่เผาทำลาย บ้าน? หรือตึก? หรือบริษัท?
เมื่อดูๆไปกลับพบว่าเป็นตนเอง เปรียบเหมือนคุณกำลังค้นหาความจริงบางอย่างจากอดีตที่ทำให้คุณเจ็บปวด แต่ยิ่งค้นลงไปเท่าไร มันยิ่งบอกและตอกย้ำว่าเป็นเราเองนั่นแหละที่เผาทำลายมัน ทีนี้มาวิเคราะห์กัน ว่ามันคืออะไรที่จินอูเผา มันจะต้องเป็น บ้าน หรือตึก หรือบริษัท หรืออะไรสักอย่างที่จินอูเป็นเจ้าของ เพราะเขาเข้ามาดูเองได้ ไม่ต้องขอใครหรือให้ใครเปิดให้ ทีนี้มันคืออะไรล่ะ? ตอนผมดู V app ผมอ่านซับซึ่งไม่รู้ตรงมั้ย Winner พูดถึง Inner Circle ตอนกำลังดูถังน้ำมัน นั่นอาจสื่อได้หลายอย่างคือ ที่เผาไปคือ แฟนคลับ พวกเขาทำลายและทำร้ายแฟนคลับของพวกเขา เพราะพวกเขามีปัญหา คัมแบคช้า บลาๆ เพลงไม่ฮิตเท่าที่ควร บลาๆ นี่สุดล้วนแล้วแต่เดาทั้งสิ้นนะครับ ในส่วนนี้อีกมุมนึงคือ เผาบ้าน บ้านคือครอบครัว ครอบครัวสำหรับพวกเขา คือพวกเขา 5 คน
แต่เขายิ่งค้นยิ่งพบว่าพวกเขานั่นแหละที่เผาทำลายบ้านหลังนี้ อาจจะสื่อถึงแทฮยอนที่ออกไป ว่าพวกเขายังคิดถึงบ้านหลังนี้เช่นกัน
บ้านที่เขาทำลายมันเอง เช่นกัน จินอูต้องห่างไกลครอบครัวครับ อาจจะสื่อไปทางนี้ได้ด้วยเช่นกันครับ ว่าจินอูเจ็บปวดที่เขาต้องห่างไกลครอบครัวและเขาทำมันเอง
ทีนี้มาดูที่ภาพรวม MV ทุกคนใส่ขุดขาวตอนอยู่ในโบสท์กับตอนอยู่นอกโบสท์แล้วเท่านั้น และตอนในโบสท์คืออยู่ที่ทางออก หรือ ห้องโถง และจะมีฉากที่ในห้องเต็มไปด้วยพระแม่มารี? หรืออะไรสักอย่างในทางคริสท์ ผมไม่แน่ใจ แต่โดยรวมคือ เหมือนเป็นห้องสารภาพบาป พวกเขาทั้งสี่ยอมรับมันได้แล้วว่าพวกเขาเองนั่นแหละที่ทำให้ตัวเองเจ็บปวด เป็นบาป เป็นความโง่ของตัวเอง สังเกตว่าในห้องนี้พวกเขาใส่ชุดทั่วไป และ กำลังเดินเข้าไปหรือนั่งลงหมดแรง คือพวกเขายอมรับผิดแล้ว และเมื่อออกมา พวกเขาก็เป็นคนเดิมในชุดใหม่ ชุดสีขาว ผู้บริสุทธิ์ เมื่อพวกเขายอมรับมันแล้ว ก็แปลว่า เขาบริสุทธิ์อีกครั้ง ไม่มีตราบาปที่คอยกัดกินอีกต่อไป แต่ใช่ว่าพวกเขาจะลบอดีตได้ สีหน้าของพวกเขาไม่ได้บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นสุขเลย เขาแค่ยอมรับมัน และฉากที่มีผู้หญิงล้อมวงวิ่งรอบตัว ก็หมายถึง บาปพวกนั้นไม่ได้หายไปไหนมันยังคงขังตัวเขาอยู่ แต่ไม่แล้ว เขาไม่โง่แล้ว เขาบริสุทธิ์และเข้าใจมันแล้ว บาปทั้งหลายก็เช่นกัน พวกเขายิ้มแย้ม เต้นอยู่รอบตัวเขาแล้ว ไม่ได้มาทำร้ายเขาอีกต่อไป และพวกเขาที่ผ่านการยอมรับและเข้าใจแล้ว และก็กำลังเดินออกจากโบสท์เพื่อดำเนินชีวิตต่อไป เหมือนในฉากแรกของ MV แน่นอนครับ สีขาวใส่ไป เดี๋ยวก็รอยเปรอะ ใช่ว่าพวกเขาจะไม่พลาด หรือไม่เจอปัญหาอีก แต่พวกเขาจะไปต่อครับ
เป็นไงกันมั่งครับ ใครอ่านจบนี่อดทนมากๆเลยนะครับ ขอบคุณมากๆที่อ่านนะครับ ถ้ามีคนอ่านอ่ะนะ 55555
ใครคิดเห็นคิดต่างยังไงติชมมาได้เลยครับหรืออยากเสริมอยากบอกอะไรเต็มที่เลยครับ ขอแค่คุยกันด้วยเหตุผล
ถ้าผมตามอ่านไม่ผิด เห็นเหมือนมีคนแปลไว้ว่า Winner พูดใน V app ว่า Fool เป็นเพลงของคนรักที่จากไป แต่ส่วนนึงก็อาจหมายถึงแทฮยอนที่จากไป
นั่นแหละครับอย่างที่ผมบอก ถ้ามองตาม MV ทุกคนโทษแต่คนอื่น หรือโทษแต่แทฮยอน ไม่มองในอีกมุมสะท้อน ว่าจริงๆแล้วพวกเขารึเปล่าที่ทำให้แทฮยอนตัดสินใจออกไป และพวกเขาต้องมาทนติดกับมัน พวกเขาคิดถึงความทรงจำ และแทฮยอนเช่นกัน พวกเขาอาจจะโง่เองที่ปล่อยให้เกิดเรื่อง แต่ตอนนี้เขาแก้อะไรไม่ได้ พวกเขาต้องยอมรับและเดินหน้าไปต่อ ขอล่ะครับ อย่าดราม่าเรื่องแทฮยอนนะครับ 555 ผมก็มอง พูดในมุมผม มันไม่มีทางถูกทั้งหมดครับ
ขอบคุณที่ทนอ่านครับ
[KPOP] Winner - Fate Number For วิจารณ์และตีความ MV
ปกติผมจะไม่ค่อยตั้งกระทู้หรืออะไรแบบนี้บ่อยนักครับ ส่วนมากจะเป็นผู้ชมซะมากกว่า แต่ MV และ ตัวเพลงสองเพลงนี้ของ Winner ดีมากจริงๆ
มีเรื่องให้พูดถึงเยอะมากเลยครับ จนผมที่ตามเชียร์มาตั้งแต่ Team A ตัดสินใจมาขอตีความและรีวิวบ้าง
มากันที่เพลงแรก
Really Really เป็นเพลงที่มีจังหวะค่อนข้างเร็วและสนุกสนาน เพลงนี้ได้ซึงยุนลีดเดอร์ของเราแต่งทั้งเนื้อและทำนอง โดยมีมิโนและซึงฮุนแต่งท่อนแร๊พซาวด์ดนตรีจะมีความเป็นเพลงสากลสูงมากสำหรับผมนะเหมือนฟังเพลง bilboard อยู่ ประมานนั้นเลยครับ ซึ่งจะสังเกตได้ว่า ก่อนหน้านี้ เพลงหลักๆของ Winner ก็จะเป็นแทฮยอน ซึงยุน มิโนแต่ง ซึ่งแต่ล่ะคนก็จะมีกลิ่นเพลงต่างกันออกไป เพลงนี้ก็มีกลิ่นเพลงที่ค่อนข้างต่างจาก exit:e ที่ค่อนข้างมีความ jazz และเป็น band มากกว่า ตามสไตล์แทฮยอนเขาแหละครับ ทั้งเมโลดี้และท่อนแร๊พดีมากจริงๆ แตกต่างจากวงอื่นๆ ผมอาจจะอวยไปเอง แต่สำหรับผม Winner ไม่เคยทำเพลงออกมาแล้วมีความเหมือนเพลงบอยแบนด์เกาหลีทั่วไปเลยสักครั้ง และไม่เหมือน YG เสียทั้งหมดด้วยอย่าง ikon หรือ blackpink ยังมีกลิ่นความ YG อยู่ แต่ Winner จะค่อนข้างแตกต่างครับแต่แน่นอนมันมีกลิ่น YG ทำให้ผมชอบมากๆ
แน่นอนข้อดีมี ข้อเสียก็มี เดี๋ยวจะหาว่าเอาแต่อวย ในพาร์ทแร๊พของซึงฮุน ค่อนข้างจะดู"ทั่วไป" คือไม่ใช่ไม่ดี แต่มันไม่โดดเด่นขนาดนั้น
ซึ่งพอมองกลับมาที่มิโน พาร์ทของเขาแตกต่างและลงตัวดีมากๆ เพราะต้องเข้าใจก่อนซึงฮุนตำแหน่งในวงคือ เมนเต้น
และเขาไม่ใช่ hiphop rapper ขนาดมิโน หรือ B.I กับ Bobby จาก Ikon และข้อเสียอีกอย่างคือ พลังเสียง ที่หายไป แน่นอนจินอูร้องได้ดี แต่ไม่เท่าแทฮยอน และจะไม่พูดเลยคงไม่ถูก กลายเป็นซึงยุนต้องเป็นเมนร้องที่แบกท่อนร้องไว้เองเยอะมากขึ้น ซึ่ง ก็ดีนะผมว่า ให้อาคังปล่อยของ 555
แต่นั่นแหละครับ คงเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่จะเปรียบเทียบว่าการมีและไม่มีแทฮยอนต่างกันยังไง เพราะจากนี้ไป พวกเขามีกันสี่คน และจะเดินหน้าต่อ
ส่วนที่ผมชอบมากๆคือ MV ครับ!! โห... Part แรกคือ องค์ประกอบศิลป์ งดงามมาก นี่มันงาน Graphic Design ชัดๆ ทั้งเทคนิคการถ่ายตรงบันได เลือกใช้สีขาวดำ ตึกด้านหลัง การยืนกลางแจ้งแล้วมีเงาทอดผ่าน คนเยอะๆ ทั้งหมดนี่ถ้าคนที่ชอบศิลปะ หรือศึกษามาบ้าง จะรู้เลยว่ามันคือการทำงาน
Composition แบบซ้ำ ไล่น้ำหนัก ความสมมาตร ผมก็เรียนนานแล้ว เริ่มเรียกไม่ถูก 5555 แต่คือสวยมากๆครับ ดูแล้วรู้สึก Classy มากๆ
มากันที่เพลงที่สอง
Fool เพลงนี้เป็นเพลงช้าที่มีกลิ่นอายแบบ YG สุดๆ ไม่รู้จะพูดยังไง 5555 และเป็นเพลง ballad ที่เหมาะกับแทฮยอนมากๆ เอาอีกแล้ว พาดพิงอีกแล้ว 555
ก็มันคือความจริงน่ะครับ 55555 แต่อย่างที่บอกเราจะเปรียบเทียบเมื่อมีและไม่มีเขาเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย
แต่สิ่งที่เพลงนี้ค่อนข้างแตกต่างคือ นี่คือสไตล์ของ ซึงยุน ทำให้นึกถึง เพลง Different นิดๆ เมโลดี้ขึ้นลงอย่างสวยงาม และเป็นอีกครั้งที่ Winner พยายามจะบอกเราว่า มิโน "ร้องเพลง"ได้ดี ครบเครื่องจริงๆ มิโน ทำให้นึกถึง GD มากๆครับ ความสามารถรอบด้านขนาดนี้ แฟชั่นก็เช่นกัน
สรุป เพราะมากๆครับเพลงนี้ ซึงยุนทดแทนและเติมเต็มในส่วนของแทฮยอนได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งการแต่งเพลงและการร้อง
มาที่ MV ซึ่ง ผมชอบมากๆอีกแล้ว!! ทำไมมันลึกซึ้งแบบนี้ จนกระทั่งตอนนี้ที่เขียนอยู่ก็มีส่วนที่ผมยังตีไม่แตก
MV นี้ค่อนข้างจะ Symbolic คือมีการสื่อผ่านทางสัญลักษณ์สูงมากๆ ถ้าดูผ่านๆ ก็จะพบแต่ความสวยงามแต่ถ้าค้นหา คุณก็จะเข้าถึงมากขึ้น เหมือนกับ Winner ที่ถ้าแค่ฟังผ่านๆ ก็คงเพลงเพราะดี แต่ตัวตนและความสามารถพวกเขามีมากกว่านั้นจริงๆ รวมทั้งความเจ็บปวดและปัญหาที่พวกเขาฝ่าฟันมา
เริ่มแรกเลยเราจะเห็นได้ว่า เมมเบอร์ทั้งหมดจะมีสองชุดคือชุดทั่วไปกับสีขาว ซึ่ง สีขาวนั้นหมายถึง ผู้บริสุทธิ์ หรือ ผู้ที่ผ่านการล้างบาปมาแล้ว
เราจะสังเกตได้ว่า ชุดสีขาวนั้นพวกเขาใส่ตอนอยู่ในโบสท์หรือหน้าโบสท์เท่านั้น ทำไมล่ะ? คำตอบอยู่ที่เนื้อเรื่องครับ
ซึงยุน - ใน MV เขากำลังถ่ายรูปและหยอกล้อเล่นกับผู้หญิงที่คงเป็นคนรักเขาแหละ ไม่ต้องเดามาก 5555 ดูตอนแรกเหมือนไม่มีอะไร แต่พอตอนท้าย กลับมีรอยบีบคอสีดำ ที่คอของหญิงสาวเมื่อมองผ่านเลนส์กล้อง ทำไมล่ะ คืออะไร? ภาพเหล่านั้น เป็นเหมือนอดีตหรือความฝันของซึงยุนครับ รอยที่คอ และภาพสีแดงสื่อถึงความตายของคนรักที่จากไปแล้ว จากไปยังไง ก็รอยที่คอไง จะเห็นว่ารอยนั้น มาจากมือของซึงยุนที่มีหมึกสีดำอยุ่ในตอนจบ เป็นการสื่อว่า คนที่ทำให้คนรักจากไปนั้นก็คือเขาเอง ซึงยูนติดอยู่กับอดีต สัญลักษณ์ที่บอกก็คือ กล้อง การถ่ายรูป ทั้งหมดนี้ล้วนบ่งบอกถึง ความทรงจำ ในอดีตครับ ง่ายๆคือซึงยูนทำใฟ้คนรักจากไปและตัวเขาเองแหละที่ต้องมาติดอยู่กับมันเอง เป็น Fool ของเขา โง่เองที่ทำให้เธอจากไป
มิโน - ใน MV. เขาน่าจะเป็น Artist ที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะครับ จะเห็นได้ว่าฉากของมิโนจะมีแต่งานศิลปะ ในมุมนี้มองได้สองแง่คือ เขาเป็น Artist จริงๆ หรือเขาแค่เป็นคนติส แล้วแต่จะมองครับ จะมีฉากที่มิโนทะเลาะกับ ผญ ที่ไม่เห็นหน้า ซึ่งในจุดนี้สามารถมองได้สองอย่างคือแตกต่างจากซึงยุนที่ติดกับคนรักคนนึง แต่มิโนติดอยู่กับคนรักทุกคนที่ผ่านมาทำไมถึงเป็นทุกคน เดี๋ยวจะมาบอกครับ มองในอีกมุมนึงคือในแง่ของคนสร้างงานศิลปะ การสร้างงานศิลปะออกมาย่อมมีคู่แข่ง หรือปัญหาให้เผชิญ นั่นคือเขากำลังทะเลาะกับคู่แข่งหรือปัญหาเหล่านั้น
ซึ่งราจะเห็นว่า ผู้หญิงไม่เห็นหน้า ที่ใส่หน้ากากนี้ จะถืองานชิ้นนึงบ่อยมาก เป็นงานที่มีรอยเปื้อน นั่นคืองานของมิโน และผู้หญิงคนนี้คอยย้ำเตือนมิโนในรอยด่างในงานของเขาชิ้นนี้ตลอด แถมยังมีฉากที่ผู้หญิงใส่หน้ากาก คอยทำลายงานศิลปะของเขา พ่นสเปรย์ใส่ จนมิโนโมโห และเข้าไปจะทำลายงานชิ้นนั้น จะทำร้ายผู้หญิงหน้ากาก แต่ปรากฎว่า พอฉีกออกมากลับเป็นกระจกสะท้อนตัวเขาเองครับ หมายถึง ตัวเขาเองนั่นแหละที่ทำให้งานชิ้นนี้มันมีรอยด่าง หรือ ตัวเขาเองนั่นแหละที่ทำให้คนรักที่ผ่านมาทิ้งเขาไป และเขาเองก็ต้องมาเจ็บปวดกับมัน เป็น Fool ของมิโนครับ ซึ่งอย่างที่บอกตอนแรกทำไมถึงบอกว่าเป็นคนรักทุกคน เพราะว่าเราไม่เห็นหน้าครับ มิโนล้มเหลวในความรักทั้งหมดเพราะตัวเอง และมันก็เป็นกระจกสะท้อนมาให้เขารับรู้และติดอยู่กับมัน ถ้ามองในมุมคนทำงานศิลปะ ก็นั่นหละครับ ศิลปินมักโทษคู่แข่ง โทษตลาด โทษสังคม โทษคนดู แต่จริงๆแล้วอ่ะ ปัญหามันสะท้อนกลับมาจากคนทีทำมันออกมานั่นแหละ
ผมชอบในมุมของมิโนมาก รอยด่าง นี่พาให้นึกถึงเรื่องรอยด่างของมิโนในอดีต ทั้งการเกือบเป็น bจอ blacknut เอามาเล่นเป็นกระแส แถมยังมีปัญหาท่อนแร๊พในรายการอีก มันสะท้อนตัวมิโนได้ดีครับพาท
ซึงฮุน - ของฮุนนี่นี่ผมไม่แน่ใจ เท่าที่ดูออกคือ เขาขับรถใช่มั้ยครับ มันเหมือนคนที่ใช้ชีวิตที่โฉบเฉี่ยว อันตราย ฮุนเจ็บปวด รถล้ม มาพักที่ปั๊มน้ำมัน ก็เหมือนชีวิตที่ผิดพลาดล้มลง ต้องมาพักที่พักเติมน้ำมัน เพื่อไปต่อ แต่ระหว่างพักนั้น ความเจ็บปวดก็กัดกินเขา และพอมองออกมาก็เจอคนรถล้มนอนอยู่ เขาก็รีบมาดูแล้วพบว่าเป็นตัวเอง หมายถึง มันเป็นเพราะเขานั่นแหละที่เลือกใช้ชีวิตแบบนี้ เขาถึงต้องมาจบแบบนี้ เป็น Fool ของฮุนนี่ครับ ผมไม่แน่ใจว่า เขาอาจะสื่อถึงขั้นตายไปแล้ว หรือก็คือชีวิตล้มเหลวไปแล้วแต่ไม่รู้ตัวรึเปล่า จนกระทั่งมาเจอตนเองนอนอยู่ถึงรับรู้ว่ามันสายไปสำหรับการพักแล้ว อันนี้ยังตีไม่แตกครับ
จินอู - ของจินอูนี่ก็ยังตีไม่แตกเหมือนกันครับ คือจินอูมาดูบันทึกกล้องวงจรปิดว่าใครคือคนร้ายที่เผาทำลาย บ้าน? หรือตึก? หรือบริษัท?
เมื่อดูๆไปกลับพบว่าเป็นตนเอง เปรียบเหมือนคุณกำลังค้นหาความจริงบางอย่างจากอดีตที่ทำให้คุณเจ็บปวด แต่ยิ่งค้นลงไปเท่าไร มันยิ่งบอกและตอกย้ำว่าเป็นเราเองนั่นแหละที่เผาทำลายมัน ทีนี้มาวิเคราะห์กัน ว่ามันคืออะไรที่จินอูเผา มันจะต้องเป็น บ้าน หรือตึก หรือบริษัท หรืออะไรสักอย่างที่จินอูเป็นเจ้าของ เพราะเขาเข้ามาดูเองได้ ไม่ต้องขอใครหรือให้ใครเปิดให้ ทีนี้มันคืออะไรล่ะ? ตอนผมดู V app ผมอ่านซับซึ่งไม่รู้ตรงมั้ย Winner พูดถึง Inner Circle ตอนกำลังดูถังน้ำมัน นั่นอาจสื่อได้หลายอย่างคือ ที่เผาไปคือ แฟนคลับ พวกเขาทำลายและทำร้ายแฟนคลับของพวกเขา เพราะพวกเขามีปัญหา คัมแบคช้า บลาๆ เพลงไม่ฮิตเท่าที่ควร บลาๆ นี่สุดล้วนแล้วแต่เดาทั้งสิ้นนะครับ ในส่วนนี้อีกมุมนึงคือ เผาบ้าน บ้านคือครอบครัว ครอบครัวสำหรับพวกเขา คือพวกเขา 5 คน
แต่เขายิ่งค้นยิ่งพบว่าพวกเขานั่นแหละที่เผาทำลายบ้านหลังนี้ อาจจะสื่อถึงแทฮยอนที่ออกไป ว่าพวกเขายังคิดถึงบ้านหลังนี้เช่นกัน
บ้านที่เขาทำลายมันเอง เช่นกัน จินอูต้องห่างไกลครอบครัวครับ อาจจะสื่อไปทางนี้ได้ด้วยเช่นกันครับ ว่าจินอูเจ็บปวดที่เขาต้องห่างไกลครอบครัวและเขาทำมันเอง
ทีนี้มาดูที่ภาพรวม MV ทุกคนใส่ขุดขาวตอนอยู่ในโบสท์กับตอนอยู่นอกโบสท์แล้วเท่านั้น และตอนในโบสท์คืออยู่ที่ทางออก หรือ ห้องโถง และจะมีฉากที่ในห้องเต็มไปด้วยพระแม่มารี? หรืออะไรสักอย่างในทางคริสท์ ผมไม่แน่ใจ แต่โดยรวมคือ เหมือนเป็นห้องสารภาพบาป พวกเขาทั้งสี่ยอมรับมันได้แล้วว่าพวกเขาเองนั่นแหละที่ทำให้ตัวเองเจ็บปวด เป็นบาป เป็นความโง่ของตัวเอง สังเกตว่าในห้องนี้พวกเขาใส่ชุดทั่วไป และ กำลังเดินเข้าไปหรือนั่งลงหมดแรง คือพวกเขายอมรับผิดแล้ว และเมื่อออกมา พวกเขาก็เป็นคนเดิมในชุดใหม่ ชุดสีขาว ผู้บริสุทธิ์ เมื่อพวกเขายอมรับมันแล้ว ก็แปลว่า เขาบริสุทธิ์อีกครั้ง ไม่มีตราบาปที่คอยกัดกินอีกต่อไป แต่ใช่ว่าพวกเขาจะลบอดีตได้ สีหน้าของพวกเขาไม่ได้บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นสุขเลย เขาแค่ยอมรับมัน และฉากที่มีผู้หญิงล้อมวงวิ่งรอบตัว ก็หมายถึง บาปพวกนั้นไม่ได้หายไปไหนมันยังคงขังตัวเขาอยู่ แต่ไม่แล้ว เขาไม่โง่แล้ว เขาบริสุทธิ์และเข้าใจมันแล้ว บาปทั้งหลายก็เช่นกัน พวกเขายิ้มแย้ม เต้นอยู่รอบตัวเขาแล้ว ไม่ได้มาทำร้ายเขาอีกต่อไป และพวกเขาที่ผ่านการยอมรับและเข้าใจแล้ว และก็กำลังเดินออกจากโบสท์เพื่อดำเนินชีวิตต่อไป เหมือนในฉากแรกของ MV แน่นอนครับ สีขาวใส่ไป เดี๋ยวก็รอยเปรอะ ใช่ว่าพวกเขาจะไม่พลาด หรือไม่เจอปัญหาอีก แต่พวกเขาจะไปต่อครับ
เป็นไงกันมั่งครับ ใครอ่านจบนี่อดทนมากๆเลยนะครับ ขอบคุณมากๆที่อ่านนะครับ ถ้ามีคนอ่านอ่ะนะ 55555
ใครคิดเห็นคิดต่างยังไงติชมมาได้เลยครับหรืออยากเสริมอยากบอกอะไรเต็มที่เลยครับ ขอแค่คุยกันด้วยเหตุผล
ถ้าผมตามอ่านไม่ผิด เห็นเหมือนมีคนแปลไว้ว่า Winner พูดใน V app ว่า Fool เป็นเพลงของคนรักที่จากไป แต่ส่วนนึงก็อาจหมายถึงแทฮยอนที่จากไป
นั่นแหละครับอย่างที่ผมบอก ถ้ามองตาม MV ทุกคนโทษแต่คนอื่น หรือโทษแต่แทฮยอน ไม่มองในอีกมุมสะท้อน ว่าจริงๆแล้วพวกเขารึเปล่าที่ทำให้แทฮยอนตัดสินใจออกไป และพวกเขาต้องมาทนติดกับมัน พวกเขาคิดถึงความทรงจำ และแทฮยอนเช่นกัน พวกเขาอาจจะโง่เองที่ปล่อยให้เกิดเรื่อง แต่ตอนนี้เขาแก้อะไรไม่ได้ พวกเขาต้องยอมรับและเดินหน้าไปต่อ ขอล่ะครับ อย่าดราม่าเรื่องแทฮยอนนะครับ 555 ผมก็มอง พูดในมุมผม มันไม่มีทางถูกทั้งหมดครับ
ขอบคุณที่ทนอ่านครับ